
วันที่ 17 พ.ค.65 เวลา 11.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องเรียนจากทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ กรณีมีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทเงินทุนต่างชาติ ต้องการเข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ดินในประเทศไทย แต่สุดท้ายโกงเงินประเมินอสังหาริมทรัพย์และที่ดินทั่วประเทศ จากบรรดานายหน้าพร้อมอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองหลายคน จนมีการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานส่งให้กับตำรวจ กระทั่งออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ 2 ราย ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่ทางภาคใต้ รวมถึงภาคเหนือและภาคอีสาน มูลค่าความเสียหายรวมแล้วหลายพันล้านบาทว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า พฤติกรรมของมิจฉาชีพมีการแอบอ้างพร้อมเชื้อเชิญให้เหล่าบรรดาผู้เสียหายเข้ามาร่วมทำสัญญาการประเมินอสังหาริมทรัพย์ในราคาสูงเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายจ่ายเงินค่าดำเนินการ เมื่อมีคนหลงเชื่อและจ่ายเงินให้จึงมีการอนุมัติรับจำนองหรือขายฝากในวงเงินต่ำกว่าโฆษณาเพื่อให้ผู้เสียหายปฏิเสธไม่เข้ารับจำนองหรือขายฝาก ก่อนจะยึดเงินค่าดำเนินการในการประเมินที่ดินดังกล่าว โดยใช้ช่องทางกฎหมายหลอกลวงผู้อื่นให้หลงเชื่อ การกระทำดังกล่าวสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมายในฐานฉ้อโกง เพราะทำตัวเป็นนักประเมินปลอม ไม่มีทุนจากต่างประเทศตามคำกล่าวอ้างกับผู้เสียหายจริง โดยนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ศูนย์สอบสวนคดีอาญาพิเศษ ตั้งเลขสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว หากมีประชาชนคนไหนที่ได้รับความเสียหายจากคดีดังกล่าวให้รีบรวมตัวเข้าร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรมโดยด่วนเพื่อจะเดินหน้าทำเป็นคดีพิเศษ ส่วนผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัดให้เข้าร้องเรียนที่ยุติธรรมจังหวัดได้เช่นกัน
จากนั้น ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต ได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีโลกโซเชียลเปิดเผยคลิปกล้องวงจรปิด ปรากฏภาพของสามีรายหนึ่งกำลังทำร้ายผู้หญิง ด้วยการตบตีอย่างรุนแรงภายในห้องนอน พร้อมข้อความระบุว่า ได้รับเรื่องร้องเรียน เหตุทำร้ายร่างกายในครอบครัวของลูกชายอดีตอัยการ ซึ่งฝ่ายหญิงแจ้งความไปถึง 4 ครั้ง แต่เรื่องยังเงียบ โดยว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า เคสดังกล่าวเป็นเรื่องความรุนแรงภายในครอบครัว ซึ่งกระทรวงยุติธรรมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ในสังคม ส่วนผู้เสียหายได้มายื่นเรื่องค่าเยียวยา ค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนค่าขาดประโยชน์ในช่วงที่ต้องทำมาหากิน รวมถึงการขอร้องให้มีการคุ้มครองพยานหลังเจ้าตัวเกรงว่าอาจจะถูกสามีทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ภายใต้นโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะให้ทีมทนายความ และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เข้าไปช่วยดำเนินการในคดีให้ทั้งหมด อยากให้ผู้เสียหายมั่นใจว่ากระบวนการทางยุติธรรม จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
วันเดียวกัน นายเสี่ยวโป เฉิน อาชีพ นักธุรกิจชาวไต้หวัน เข้าร้องเรียน ร้องทุกข์ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในคดีฉ้อโกง (ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย) เนื่องจากเชื่อว่าการถูกฟ้องร้องคดีในครั้งนี้ไม่ชอบมาพากล จึงขอให้ช่วยตรวจสอบ โดยว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จะส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าตรวจสอบความเป็นมาโดยเฉพาะเรื่องการทุจริต และการข่มขู่ให้ได้มาเพื่อการกรรโชกทรัพย์ รวมถึงต้องสอบปากคำก่อนอีกด้วย เพราะชายชาวไต้หวันเป็นทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหา