
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) (สวพส.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ตลอดจนผู้แทนจากจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และแม่ฮ่องสอน หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดการประชุม “Kick Off และความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการแก้ปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน” ณ ห้องประชุมทิวลิป โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ จากหน่วยงานหลักที่มีบทบาทในการจัดการปัญหาหมอกควันข้ามแดนเข้าร่วมประชุมกว่า 60 คน
นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการร่วมยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ซึ่งเป็นกลไกความร่วมมือในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศข้ามพรมแดนระหว่างไทย เมียนมาร์ และลาว โดยตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา PM2.5 โดยเฉพาะในภาคเหนือ ที่มีสาเหตุจากการเผาในที่โล่งเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและเศรษฐกิจในพื้นที่ วช. จึงมุ่งสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมร่วมกับ สวก. และภาคีเครือข่าย อาทิ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย คพ. สวพส. กรมกิจการชายแดนทหาร และ GISTDA เพื่อบูรณาการข้อมูลและแนวทางป้องกันปัญหาเชิงระบบ การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการยกระดับความร่วมมือและขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสานต่อความร่วมมือทางวิชาการอย่างเข้มแข็ง โดยขอขอบคุณผู้แทนจากทุกภาคส่วนที่ร่วมประชุม สนับสนุน แลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมกันผลักดันให้การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนเป็นไปอย่างยั่งยืน
นางสาวปิยธิดาถิระรณรงค์ เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิเคราะห์นโยบายและแผนงานวิจัยการเกษตร สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สวก. ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนงานวิจัยเชิงพื้นที่ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยเฉพาะในประเด็นการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ซึ่งเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับระบบเกษตรกรรมและการใช้ประโยชน์ที่ดิน สวก. จึงพร้อมสนับสนุนทั้งในเชิงกลไกและการประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดแนวทางการจัดการที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ลดผลกระทบอย่างยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน
การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้โครงการกลไกความร่วมมือขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการร่วมยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) เพื่อลดหมอกควันข้ามแดน และภายใต้การดำเนินโครงการพัฒนาความร่วมมือเมืองคู่ขนาน ไทย ลาว เมียนมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยโดย วช. และ สวก. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันผลักดันแผนยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR SKY Strategy) และแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Plan of Actions) เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานโครงการ และเปิดเวทีหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการลดปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายในงานมีการบรรยายสถานการณ์มลพิษอากาศและหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดย คุณศิวพร รังสิยานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ โดยกล่าวว่ากรมควบคุมมลพิษตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการคุณภาพอากาศและเสียงอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามพรมแดนซึ่งเป็นความท้าทายระดับภูมิภาค การดำเนินงานจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด เรามุ่งหวังให้เกิดกลไกการจัดการที่ยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม และการนำเสนอภาพรวมการดำเนินโครงการ CLEAR Sky Strategy โดย ดร.จีรนุช ศักดิ์คำดวง หัวหน้าโครงการ จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
ถัดมาเป็นกิจกรรมระดมความคิดเห็นในประเด็นสำคัญ โดยแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 4 กลุ่มย่อย ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เรื่องเครือข่ายนักดับไฟ กลุ่มที่ 2 ระบบพยากรณ์และการติดตามสถานการณ์ กลุ่มที่ 3 การเกษตรอย่างยั่งยืน และ กลุ่มที่ 4 กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหาแนวทางลดปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรม
วช. มุ่งมั่นในการสนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนาในประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมเร่งด่วนของประเทศ โดยเฉพาะประเด็นหมอกควันข้ามแดน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และความมั่นคงในระดับภูมิภาค เพื่อร่วมผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ